ตลาดนัดกับสิ่งแวดล้อม

ปัญหาขยะถือเป็นปัจจัยหลักที่เรียกได้ว่าเป็นปัญหาของสิ่งแวดล้อมได้เสมอ ในฐานะของผู้บริหารตลาด ผู้ดูแลตลาด ปัญหาขยะควรมีการแยกประเภทขยะก่อนทำการทิ้งให้ถูกต้อง และต้องทำการประกาศเป็นกฎระเบียบของตลาดให้ชัดเจน เช่น ขยะเปียก ของสด ขยะรีไซเคิล ขยะอันตราย ควรแยกถังสำหรับทิ้งเสมอ

เมื่อสามารถแยกประเภทการทิ้งได้ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการระบบการขยะให้ทำงานง่ายขึ้น โดยลดการส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรือไม่ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม หรือทำให้เกิดขยะสะสมต่อเนื่อง

ปัญหาขยะที่สามารถจัดการได้เบื้องต้น คือ

  • แบ่งโซนขยะ โดยจะต้องจัดให้มีถังขยะหลายชนิด ทั้งขยะทั่วไป ขยะรีไซเคิล และขยะอันตราย
  • ติดป้ายบอกประเภทของถังขยะ เพื่อให้ผู้คนสามารถคัดแยกขยะได้อย่างถูกต้อง
  • ให้ความรู้เรื่องการทิ้งขยะหรือจัดแคมเปญ จัดกิจกรรมรณรงค์เกี่ยวกับการคัดแยกขยะเพื่อเป็นการให้ความรู้แก่พ่อค้าแม่ค้า รวมถึงผู้ที่มาใช้บริการตลาด

เรื่องของตลาดนัดกับสิ่งแวดล้อมหากต้องการให้ทุกอย่างเดินหน้าควบคู่กันได้ สิ่งสำคัญ คือ ต้องรณรงค์ให้ผู้ค้าหันมาใช้วัสดุรีไซเคิลหรือรณรงค์ให้ลูกค้าหันมาใช้ถุงผ้ากันมากขึ้น ลดการใช้ถุงพลาสติก หลอดพลาสติก หรือวัสดุที่ทำจากพลาสติกทั้งหลาย

โดยอาจเปลี่ยนมาเป็นถุงกระดาษ หลอดกระดาษแทน ก็จะลดการเกิดขยะสะสมหรือพลาสติกสะสมได้เยอะมาก เพราะว่าพลาสติกเหล่านี้ใช้เวลาย่อยสลายยาวนานกว่า 450 ปี หรืออย่างน้อยที่สุดอาจจะเปลี่ยนมาเป็นพลาสติกย่อยสลายได้ หรือพลาสติกรีไซเคิล ก็ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดโลกร้อนได้

การรณรงค์ให้ผู้ค้าในตลาดหันมาใช้วัสดุที่สามารถรีไซเคิลหรือย่อยสลายได้ มีข้อดีมากกว่าที่คิด ไม่ว่าจะเป็น

  • ลดปริมาณขยะที่เกิดจากบรรจุภัณฑ์ พลาสติก ที่ใช้ในการใส่สิ่งของ อาหารต่าง ๆ
  • รักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อลดมลพิษและรักษาสิ่งแวดล้อมให้คงอยู่
  • ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ทำให้ตลาดมีภาพลักษณ์ที่ดี เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และทำให้ลูกค้าเห็นถึงการใส่ใจสิ่งแวดล้อมจากทางตลาด
  • ลดต้นทุน การใช้วัสดุรีไซเคิลมีต้นทุนที่ต่ำกว่าวัสดุทั่วไป ช่วยให้พ่อค้าแม่ค้าลดต้นทุนในการจัดหาบรรจุภัณฑ์ลงได้
  • รวมถึงห้ามใช้บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายยาก ไม่ว่าจะเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ทำจากโฟม บรรจุภัณฑ์ที่สำหรับใส่เครื่องดื่มทุกชนิด
  • รณรงค์ให้ลูกค้าหรือผู้มาใช้บริหารนำภาชนะที่ที่ใช้ซ้ำกลับมาใช้ใหม่ได้ เพื่อลดการเกิดขยะและผลกระทบต้อสิ่งแวดล้อม

ปัญหาควันภายในตลาด เป็นอีกหนึ่งปัญหาสำคัญที่พบเจอได้แทบทุกตลาด อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งของผู้ค้าและลูกค้าที่มาใช้บริการ วิธีจัดการปัญหาควันภายในตลาดสามารถทำได้ดังนี้

หาสาเหตุของควัน โดยอาจเกิดจาก

  • ควันที่มาจากการทำอาหาร การใช้เตาถ่าน เตาแก๊ส รวมถึงควันที่มาจากการทอดอาหารที่ใช้น้ำมันเป็นจำนวนมาก
  • ควันที่เกิดจากการเผาขยะ ที่เกิดจากการเผาขยะมูลฝอยในตลาด
  • ควันจากยานพาหนะ ที่เกิดจากรถยนต์ที่สัญจรเข้า – ออก ภายในตลาด หรือ
  • ทางตลาดต้องทำการตควบคุมการประกอบอาหาร โดยแนะนำให้พ่อค้าแม่ค้าเปลี่ยนมาใช้เตาแก๊สที่มีประสิทธิภาพสูง หรือใช้ตาไฟฟ้าในการประกอบอาหารเพื่อลดการเกิดควันภายในตลาด
  • ติดตั้งพัดลมระบายอากาศ หรือเครื่องดูดควันให้ตอบโจท์กับปริมาณพ่อค้าแม่ค้าภายในตลาด เพื่อลดควันที่เกิดจากการทำอาหารลง
  • ควบคุมการจราจรให้เหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดการจราจรที่ติดขัดและเกิดควันสะสม และควรจัดสรรที่จอดรถให้ห่างไกลจากจุดที่ขายอาหาร เพื่อไม่ให้เกิดควันภายในตลาดที่มากเกินควร
  • ทั้งนี้ทั้งนั้นตลาดจะต้องจัดสรรระบบระบายอากาศให้เพียงพอและเหมาะสม เพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวก

นอกจากนี้ตลาดควรมีการอบรมและมีวิธีรับมือกับปัญหาควันอย่างดี เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาทั้งต่อผู้ค้า เจ้าของ รวมถึงสิ่งแวดล้อมในอนาคตด้วย โดยผู้บริหารตลาดมีหน้าที่ต้องจัดการปัญหาดังกล่าวเพื่อไม่ให้ควันของเสียเหล่านี้ลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ หรือขึ้นไปได้น้อยที่สุด และอาจจะต้องขอความร่วมมือกับผู้ค้า เช่น การใช้เตาที่ปล่อยควันน้อยลง ฯลฯ ถ้าหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็อาจต้องหาวิธีป้องกัน เช่น ปลูกต้นไม้บริเวณตลาด หรือเพิ่มพื้นที่สีเขียวในบริเวณตลาดให้เยอะขึ้น เป็นต้น รวมถึงการจัดการระบบการจราจรที่ดีจะช่วยลดการเกิดควันภายในตลาดลงได้

ไม่เพียงแค่การจัดการภายในตลาดเท่านั้น การจะให้ตลาดนัดและสิ่งแวดล้อมอยู่ร่วมกันได้จะต้องได้รับความร่วมมือกับทุกฝ่าย และทุกภาคส่วนที่มีความเกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน รวมถึงประชาชนทั่วไปก็ต้องให้ความร่วมมือเพื่อให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันได้โดยโดยสันติ

ที่สำคัญการจะอยู่ร่วมกันได้ทั้งตลาดและสิ่งแวดล้อมจะต้องสร้างจิตสำนึกให้กับทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างแคมเปญจัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นจิตใต้สำนึก รวมถึงการสื่อสารผ่านสื่อโซเชี่ยลต่าง ๆ ให้กับทุกฝ่ายได้รับรู้เพื่อการอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืนนั่นเอง

ทั้งนี้สำหรับเจ้าของตลาดที่กำลังมองหาตัวช่วยเพื่อบริหารจัดการตลาดง่ายขึ้น โปรแกรมบริหารตลาด MyKet Pro พร้อมเป็นผู้ช่วยให้ทุกอย่างเป็นเรื่องง่ายมากกว่าเดิม ตั้งแต่การตั้งแผง การเก็บค่าเช่า เช็กข้อมูลย้อนหลัง บันทึกข้อมูลอัปเดตใหม่ จัดเต็มฟังก์ชันครบครัน ใช้งานง่าย สร้างความเป็นมืออาชีพให้ตลาดทุกแห่งได้อย่างแน่นอน

ตลาดนัดกับสิ่งแวดล้อม

สำหรับเจ้าของตลาดใครที่กำลังวางแผนทำตลาดแห่งใหม่ก็สามารถนำแนวทางไปปรับใช้กันได้เลย นอกจากนี้สิ่งที่อยากแนะนำเพิ่มเติมสำหรับเจ้าของตลาดทุกคน คือ การมีผู้ช่วยบริหารตลาดเพื่อความเป็นมืออาชีพมากขึ้นอย่าง โปรแกรม Myket Pro ที่ถูกออกแบบมาเพื่อธุรกิจตลาดตั้งแต่การจัดแผง การเก็บค่าเช่า รายงานสรุป วิเคราะห์ธุรกิจ และอื่น ๆ สร้างความเป็นมืออาชีพได้อย่างสมบูรณ์แบบ

นอกจากเตรียมความพร้อมการบริหารตลาดให้มีประสิทธิภาพ สำหรับเจ้าของตลาดอยากบริหารตลาดให้เป็นมืออาชีพมากขึ้นหรือกำลังมองหาผู้ช่วยบริหารตลาดให้มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น ต้องติดตั้งโปรแกรมช่วยบริหารตลาดอย่าง Myket Pro เข้ามาช่วยบริหาร

Myket Pro โปรแกรมบริหารตลาดสำหรับเจ้าของตลาดอยากบริหารตลาดให้มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น ต้องมีโปรแกรมบริหารจัดการตลาด MyKet Pro เข้ามาช่วย เพราะเราคือโปรแกรมบริหารจัดการตลาดที่คิดมาเผื่อเจ้าของตลาดโดยเฉพาะ ทั้งช่วยดูแลระบบการจ่ายเงิน ระบบการเก็บเงิน การออกบิลต่าง ๆ ไม่เพียงแค่นั้นยังช่วยดูแลเรื่องการจัดการแผงค้าภายในตลาดได้ด้วยระบบ 2D Plan เรียกได้ว่าเป็นโปรแกรมบริหารตลาดที่ตอบโจทย์เจ้าของตลาดรุ่นใหม่สุด

เพราะ Myket Pro คือโปรแกรมที่เราคิดมาเผื่อสำหรับเจ้าของตลาดโดยเฉพาะ ทั้งช่วยดูแลระบบการจ่ายเงิน ระบบการเก็บเงิน การออกบิลต่าง ๆ ไม่เพียงแค่นั้นยังช่วยดูแลเรื่องการจัดการแผงค้าภายในตลาดได้ด้วย เรียกได้ว่าเป็นโปรแกรมบริหารตลาดที่ตอบโจทย์เจ้าของตลาดรุ่นใหม่สุด ๆ มีฟีเจอร์ที่รองรับการทำงานของตลาดโดยเฉพาะ เราคิดค้นและพัฒนาโปรแกรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การทำงานในตลาดง่ายและสะดวกสบายมากขึ้นนั่นเอง

อยากบริหารตลาดแบบมืออาชีพ ต้องมีโปรแกรมบริหารตลาด อย่าง Myket Pro เท่านั้น ติดตั้งวันนี้
ทดลองใช้ฟรีไปเลย 30 วัน