การทำตลาดนัด

ปัจจัยแรกที่ต้องใส่ใจมากที่สุดในการทำตลาดนัด คือ การจัดแผงขายของผู้ค้าในตลาดให้เป็นระเบียบ

  • ควรจัดให้มีช่องทางเดินสำหรับผู้ซื้อที่ชัดเจน มีช่องทางสำหรับเดินสวนกันได้ แบ่งโซนขายสินค้าแต่ละประเภทให้ชัดเจน แยกโซนเสื้อผ้า อาหาร ฯลฯ ให้ชัดเจน เพื่อง่ายต่อการเลือกซื้อ
  • ที่สำคัญการทำตลาดนัดที่ดีหัวใจหลักต้องเน้นเรื่องความสะอาด เพื่อให้ผู้ซื้อรู้สึกประทับใจ และอยากกลับมาเดินซ้ำ โดยในส่วนนี้เจ้าของตลาดต้องมีส่วนร่วมในการให้ความช่วยเหลือผู้ขาย เช่น จัดจุดทิ้งขยะให้ห่างจากบริเวณตลาด จัดเวรเจ้าหน้าที่สำหรับทำความสะอาดบริเวณตลาดและห้องน้ำ เป็นต้น
  • นอกจากนี้เจ้าของตลาดควรตั้งกฎระเบียบในการดูแลความสะอาดให้กับพ่อค้าแม่ค้าด้วย เพื่อช่วยกันดูแลทำความสะอาดให้ตลาดน่าเดินอยู่เสมอ

ปัจจัยที่สองในการบริหารตลาดนัด คือ การประเมินจำนวนรถที่คาดว่าจะเข้ามาใช้บริการ และจัดสรรพื้นที่จอดไว้ให้มากกว่าจำนวนรถที่คาดการณ์ไว้

  • ไม่เพียงแค่นั้นเจ้าของตลาดยังต้องมองหาพื้นที่ว่างสำหรับขยายตลาดและพื้นที่จอดในอนาคตเพื่อรองรับจำนวนลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น และสิ่งที่เจ้าของตลาดควรคำนึงถึงก็คือ ควรแยกจุดจอดรถสำหรับพ่อค้าแม่ค้าและลูกค้าออกจากกัน เพื่อป้องกันปัญหาการแย่งที่จอด หรือที่จอดไม่พอ
  • นอกจากนี้ทางฝั่งของเจ้าของตลาดควรที่จะจัดสรรเจ้าหน้าที่หรือเจ้าหน้าที่จราจรไว้ประจำจุดจอดรถ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้า – ออก ให้กับลูกค้า และเพื่อลดปัญหาการจราจรติดขัดภายในตลาด และลดปัญหารถติดสะสม การจัดการปัญหาที่จอดยังช่วยป้องกันผลเสียที่อาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ของตลาดได้ด้วย

ปัจจัยที่สาม คือ การสร้างการตลาดและการโปรโมตตลาดเพื่อให้เกิดการรับรู้ ให้ตลาดเป็นที่รู้จักและเพื่อให้ลูกค้าเข้าตลาดเพิ่มมากขึ้น

  • การโปรโมตตลาดเพื่อการสร้างแบรนด์: สร้างแบรนด์ให้ตลาดนัดมีความเป็นเอกลักษณ์และจดจำง่าย
  • การใช้โซเชียลมีเดียเพื่อทำการโปรโมต: สร้างเพจหรือกลุ่มบนโซเชียลมีเดียเพื่อโปรโมทตลาดนัด
  • การจัดโปรโมชั่นเพื่อให้เกิดการซื้อขายและเรียกลูกค้า: จัดโปรโมชั่นพิเศษเพื่อดึงดูดลูกค้า
  • การโปรโมตโดยการร่วมมือกับพันธมิตร: ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อขยายฐานลูกค้า

การโปรโมตตลาดนัดสามารถทำได้ทั้งตลาดที่เปิดใหม่หรือตลาดที่เปิดมาแล้ว เพื่อให้เกิดการรับรู้ให้มีคนรู้จักตลาดเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมาเดินตลาดให้เข้าตลาดมากขึ้นกว่าเดิม โดยการโปรโมตสามารถทำได้หลากหลายช่องทาง ทั้งผ่านโซเชี่ยลมีเดีย ทั้งการบอกปากต่อปาก ทั้งการโปรโมตผ่านใบปลิว อีกทั้งการโปรโมตผ่านการจัดโปรโมชั่นก็สามารถเรียกลูกค้าให้เข้าตลาดได้มากขึ้นอีกด้วย

การทำตลานัด

ปัจจัยที่สี่ตั้งกฎระเบียบให้ชัดเจนเพื่อง่ายต่อการบริหาร เช่น จัดระเบียบช่วงเวลาสำหรับการลงของขายให้กับพ่อค้าแม่ค้าที่จะเข้ามาตั้งร้าน กฎระเบียบในส่วนของการลา ขาด สาย เพื่อป้องกันล็อกว่างในตลาด

นอกจากนี้การสร้างกฎระเบียบขึ้นมาจะทำให้กาารดูแลตลาดมีความง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็น..

  • สร้างความเป็นระเบียบ: ช่วยให้ตลาดนัดเป็นไปอย่างมีระเบียบเรียบร้อย ทั้งในเรื่องของการจัดวางแผงค้า การจราจรภายในตลาด และการรักษาความสะอาด
  • สร้างความเท่าเทียม: กฎระเบียบที่เป็นธรรมจะทำให้ผู้ค้าทุกคนได้รับโอกาสที่เท่าเทียมกัน
  • ป้องกันปัญหา: ช่วยลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เช่น การทะเลาะวิวาท การรบกวนผู้ค้ารายอื่น หรือปัญหาสุขอนามัย
  • สร้างความน่าเชื่อถือ: เมื่อตลาดนัดมีกฎระเบียบที่ชัดเจน จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าและผู้ค้า

กฎระเบียบที่ควรมีในการบริหารตลาดนัด

  • กฎระเบียบเกี่ยวกับการขออนุญาต: กำหนดขั้นตอนและเอกสารที่ต้องใช้ในการขออนุญาตเปิดแผงค้า
  • กฎระเบียบเกี่ยวกับการจัดวางแผงค้า: กำหนดขนาดของแผงค้า โซนการจัดวางสินค้า และวิธีการจัดวางที่เหมาะสม
  • กฎระเบียบเกี่ยวกับการชำระค่าเช่า: กำหนดอัตราค่าเช่า วิธีการชำระ และกำหนดวันชำระค่าเช่า
  • กฎระเบียบเกี่ยวกับสุขอนามัย: กำหนดมาตรการในการรักษาความสะอาดของแผงค้า และการกำจัดขยะ
  • กฎระเบียบเกี่ยวกับความปลอดภัย: กำหนดมาตรการในการป้องกันอัคคีภัย และการรักษาความปลอดภัยของผู้ค้าและลูกค้า
  • กฎระเบียบเกี่ยวกับการจราจร: กำหนดเส้นทางการจราจรภายในตลาด และจุดจอดรถ
  • กฎระเบียบเกี่ยวกับการจัดกิจกรรม: กำหนดขั้นตอนในการขออนุญาตจัดกิจกรรมต่างๆ ภายในตลาด

กฎระเบียบเบื้องต้นที่สามารถนำไปใช้ได้

  • ห้ามจำหน่ายสินค้าที่ผิดกฎหมาย
  • ห้ามส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่น
  • ห้ามทิ้งขยะมั่วซั่ว
  • ห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาในพื้นที่ตลาด
  • ห้ามดัดแปลงแผงค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต

ปัจจัยสุดท้ายเพื่อให้การทำตลาดนัด และการบริหารตลาดนัดมีให้ประสิทธิภาพสูง เจ้าของตลาดต้องมีระบบหลังบ้านที่ดีคอยช่วยเหลือ

ทำไมต้องมีระบบหลังบ้าน

  • เพราะระบบหลังบ้านจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ช่วยลดการทำงานซ้ำ ลดความผิดพลาด พร้อมทั้งเพิ่มความเร็วในการทำงาน
  • ช่วยจัดการข้อมูลให้เป็นระบบระเบียบมากขึ้น ช่วยจัดการเก็บข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับตลาด ทั้ง ข้อมูลผู้ค้า ข้อมูลการขาย รายรับรายจ่าย ฯลฯ เพื่อนำไปวิเคราะห์ หรือจัดการข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตลาดได้มากขึ้น
  • การมีระบบหลังบ้านไม่เพียงแค่เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และการดูแลภายในตลาดง่ายขึ้น ยังช่วยเพิ่มความโปร่งใสให้กับตัวตลาดได้ด้วย ทำให้การตรวจสอบเอกสาร รายงานต่าง ๆ มีความง่ายขึ้น และยังเพิ่มความโปร่งใสของการทำงานภายในตลาดได้ด้วย
  • ทั้งนี้การมีหลังบ้านช่วยจัดการผังตลาด จัดการจำนวนแผง หรือจัดการแผงค้าในตลาด การเก็บสถิติของประเภทสินค้าที่ขาย ยังรวมไปถึงการจัดการเรื่องระบบต่าง ๆ ภายในตลาดและภาพรวมของทั้งตลาดทั้งหมดได้ด้วย

แหล่งอ้างอิง: thairealestate

การทำตลาดนัด นอกจากปัจจัยดังกล่าวที่พูดมาจะต้องมีระบบจัดการตลาดให้ประสบความสำเร็จและยังตอบโจทย์กับธุรกิจตลาดมากที่สุด คือ โปรแกรมบริหารจัดการตลาด Myket Pro

Myket Pro โปรแกรมบริหารตลาดสำหรับเจ้าของตลาดอยากบริหารตลาดให้มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น ต้องมีโปรแกรมบริหารจัดการตลาด MyKet Pro เข้ามาช่วย เพราะเราคือโปรแกรมบริหารจัดการตลาดที่คิดมาเผื่อเจ้าของตลาดโดยเฉพาะ ทั้งช่วยดูแลระบบการจ่ายเงิน ระบบการเก็บเงิน การออกบิลต่าง ๆ ไม่เพียงแค่นั้นยังช่วยดูแลเรื่องการจัดการแผงค้าภายในตลาดได้ด้วยระบบ 2D Plan เรียกได้ว่าเป็นโปรแกรมบริหารตลาดที่ตอบโจทย์เจ้าของตลาดรุ่นใหม่สุด ๆ

ไม่เพียงแค่มีฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ Myket Pro ยังรองรับการทำงานของตลาดโดยเฉพาะ พร้อมกันนี้เราคิดค้นและพัฒนาโปรแกรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การทำงานในตลาดมีความง่ายขึ้น ช่วยให้เจ้าของตลาดลดการทำงานลงเพิ่มความสะดวกสบายในการบริหารตลาดให้เป็นมืออาชีพมากขึ้น ตลาดไหนยังไม่มี

 ทดลองใช้ฟรีได้เลย 30 วัน