ขายของออนไลน์ ขายผ่านช่องทางต่างๆ มานานอยากมีหน้าร้านกับเขาบ้างแล้ว เริ่มยังไงดี?
“เราต้องขยับขยายด้วยการสร้างหน้าร้าน”
การค้าขายออนไลน์เพียงอย่างเดียวกับการค้าขายแบบมีหน้าร้านให้อารมณ์และความรู้สึกต่างกันเลยนะ การมีหน้าร้านนอกจากจะทำให้ธุรกิจของเราดูน่าเชื่อถือ ลูกค้ามายืนดู หยิบจับทดลองของก่อนใช้ได้ก่อนตัดสินใจซื้อ ได้มีการพูดคุยกันว่าลูกค้าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร เป็นความรู้สึกสำคัญที่ทำให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หลายคนอยากจะมีหน้าร้าน
เปรียบข้อดี VS ข้อเสียของการขายของ “มีหน้าร้านอย่างเดียว“
ข้อดี
- สามารถเข้าถึงลูกค้าได้โดยตรง
- สร้างการรับรู้และจดจำแบรนด์ได้เร็วขึ้น
- สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น
- ลูกค้าสามารถทดลองสินค้าและบริการก่อนตัดสินใจซื้อได้
ข้อเสีย
- ต้องใช้เงินทุนและทรัพยากรจำนวนมากในการเปิดและบริหารร้าน
- มีข้อจำกัดด้านเวลาและสถานที่ในการขาย
- ได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอก เช่น สภาพเศรษฐกิจ การแข่งขัน
ข้อดี VS ข้อเสียการขายแค่ “ขายของออนไลน์” อย่างเดียว
ข้อดี
- มีต้นทุนเริ่มต้นที่ต่ำ
- สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทั่วโลก
- สามารถทำการตลาดและการขายได้ตลอดเวลา
- บริหารจัดการได้ง่ายและสะดวก
ข้อเสีย
- ไม่สามารถเข้าถึงลูกค้าได้โดยตรง
- สร้างการรับรู้และจดจำแบรนด์ได้ช้ากว่า
- ลูกค้าไม่สามารถทดลองสินค้าและบริการก่อนตัดสินใจซื้อได้
- ได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอก เช่น พฤติกรรมผู้บริโภค คู่แข่ง
ร้านเราเหมาะกับธุรกิจแบบไหน?
สำหรับธุรกิจที่ขายของออนไลน์อยู่แล้ว หากต้องการมีหน้าร้านออฟไลน์ ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ดังต่อไปนี้
- สินค้าหรือบริการ สินค้าหรือบริการของธุรกิจมีความต้องการในตลาดหรือไม่ มีจุดเด่นที่แตกต่างจากคู่แข่งหรือไม่
- ลูกค้า ลูกค้าเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ตรงกับสินค้าหรือไม่ ลูกค้าอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับที่ตั้งหน้าร้านหรือไม่
- เป้าหมายทางการตลาด ธุรกิจต้องการขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ หรือไม่
- งบประมาณ มีทุนเพียงพอสำหรับการลงทุนเปิดหน้าร้านหรือไม่
หากพิจารณาแล้วพบว่าธุรกิจมีความพร้อมลงทุนสร้างหน้าร้านออฟไลน์ และยังมีเป้าหมายที่จะเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ สร้างการรับรู้และจดจำแบรนด์ สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า และเพิ่มยอดขายและรายได้ให้กับธุรกิจได้ก็ลองลงมือเลย!
Step by Step เตรียมความพร้อมสร้างหน้าร้าน
1.เลือกทำเลเหมาะ ๆ
การเลือกทำเลที่ตั้งที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเลือกทำเลที่จะไปตั้งหน้าร้าน ได้แก่
- ย่านที่ตั้ง : ตั้งอยู่ในย่านที่ผู้คนสัญจรไปมาจำนวนมากหรือไม่
- สิ่งอำนวยความสะดวก : มีที่จอดรถ ห้องน้ำสาธารณะ หรือไม่
- คู่แข่ง : มีคู่แข่งรายอื่นในย่านเดียวกันหรือไม่
2.ออกแบบหน้าร้าน
การออกแบบหน้าร้านควรเน้นความโดดเด่นและดึงดูดสายตาของลูกค้า โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น
- การตกแต่งภายใน : ออกแบบให้ดูทันสมัยและน่าเข้าชม
- ป้ายหน้าร้าน : ออกแบบให้สะดุดตาและสื่อสารถึงสินค้าหรือบริการ
- สื่อส่งเสริมการขาย : วางสื่อส่งเสริมการขายให้เหมาะสมกับพื้นที่
3.เตรียมความพร้อมด้านสินค้าและบริการให้พร้อมให้รับลูกค้า
เช่น มีสต็อกสินค้าให้เพียงพอกับความต้องการของลูกค้า มีพนักงานที่มีความรู้และเชี่ยวชาญเกี่ยวกับสินค้าและบริการ ช่องทางการชำระเงิน ในการทำหน้าร้านควรมีช่องทางการชำระเงินที่หลากหลายเพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้า
4.ทำการตลาด
ในช่วงที่กำลังจะเปิดหน้าร้าน อย่าลืมทำการตลาดเพื่อประชาสัมพันธ์ว่าเรากำลังจะมีหน้าร้านด้วย เพราะนี่จะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ลูกค้าทราบถึงการเปิดร้านใหม่ ช่องทางการตลาดที่สามารถทำได้
เปิดหน้าร้านแล้วทำยังไงต่อ?
หลังจากเปิดหน้าร้านแล้ว เจ้าของร้านควรติดตามผลและปรับปรุงการดำเนินงานอยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม การเริ่มต้นมีหน้าร้านออฟไลน์ก็ต้องใช้เงินทุนและทรัพยากรจำนวนมาก ดังนั้นจึงควรวางแผนและศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจเปิดร้าน
อ้างอิง : https://www.eggdigital.com/o2o-omni-business-model/ , https://zortout.com/blog/o2o
มือใหม่อยาก ‘ขายของในตลาด’ ต้องรู้อะไรบ้าง (คลิก)
Myket Pro เข้าเช่าแผงและติดต่อเจ้าของตลาดจะไม่ยากอย่างที่เคย
ลืมภาพความยุ่งยากในการทำสัญญาเช่าแผงและจ่ายค่าแผงไปเลย ถ้าเข้าไปขายในตลาดที่ใช้ Myket Pro ระบบบริหารตลาดอัจฉริยะที่จะช่วยให้เจ้าของตลาดไม่ว่าจะมือเก๋า มือใหม่ สามารถบริหารจัดการตลาดและแผงค้าเช่าของตัวเองได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว กว่าที่เคย พ่อค้าแม่ค้าก็จะยังยิ่งสบาย!
Myket Pro ตัวช่วยที่ใช่ สำหรับเจ้าของตลาดยุคใหม่ ทดลองใช้งานฟรี 30 วัน สมัครเลย
